หลัง
จากที่แผ่นดินไหวเกิดสึนามิที่ญี่ปุ่นก็เล่นเอาตกใจไประลอก หนึ่งแล้ว
ไม่กี่วันต่อมาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดซ้ำอีก
แถมยังแว่วๆมาว่าสารกัมมันตภาพรังสี เกิดการรั่วไหลอีก
ทำให้หลายคนอยากรู้ว่าจริงๆแล้ว สารกัมมันตภาพรังสี
คืออะไรและเราจะป้องกันอันตรายจากกัมมันตภาพรังสีได้อย่างไร
กัมมันตภาพรังสี (Radioactivity) เป็น
คุณสมบัติของธาตุและไอโซโทปบางส่วน
ที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นธาตุหรือไอโซโทปอื่น
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะมีการปลดปล่อยหรือส่งรังสีออกมาด้วย
ปรากฏการณ์นี้ได้พบครั้งแรกโดย เบคเคอเรล เมื่อปี พ.ศ. 2439
ต่อมาได้มีการพิสูจน์ทราบว่า
รังสีที่แผ่ออกมาในขบวนการสลายตัวของธาตุหรือไอโซโทปนั้นประกอบด้วย
รังสีแอลฟา, รังสีเบต้า และรังสีแกมมา
รังสีแอลฟา
รังสี
ที่ประกอบด้วยอนุภาคแอลฟาซึ่งเป็น อนุภาคที่มีมวล 4 amu มีประจุ +2
อนุภาคชนิดนี้จะถูกกั้นไว้ด้วยแผ่นกระดาษหรือเพียงแค่ผิวหนังชั้นนอกของคน
เราเท่านั้น
การสลายตัวให้รังสีแอลฟา
90Th 232----->88Ra 228 + 2a 4
รังสีเบต้า
รังสี
ที่ประกอบด้วยอนุภาคอิเลคตรอนหรือ โพสิตรอน
รังสีนี้มีคุณสมบัติทะลุทะลวงตัวกลางได้ดีกว่ารังสีแอลฟา
สามารถทะลุผ่านน้ำที่ลึกประมาณ 1
นิ้วหรือประมาณความหนาของผิวเนื้อที่ฝ่ามือได้
รังสีเบต้าจะถูกกั้นได้โดยใช้แผ่นอะลูมิเนียมชนิดบาง
การสลายตัวให้รังสีบีตา
79Au 198----->80Hg 198 + -1b 0
7N 13----->6C 13 + +1b 0
รังสีแกมมา
รังสี
ที่เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าพลังงาน สูง
มีคุณสมบัติเช่นเดียวกันกับรังสีเอกซ์ที่สามารถทะลุผ่านร่างกายได้
การกำบังรังสีแกมมาต้องใช้วัสดุที่มีความหนาแน่นสูงเช่น
ตะกั่วหรือยูเรเนียม เป็นต้น
การสลายตัวให้รังสีแกมมา
27Co 60----->-1b 0 + 28Ni 60----->28Ni60 + g
การใช้ประโยชน์จากรังสี
ปัจจุบัน
ได้มีการนำรังสีและสารกัมมันตรังสีมาใช้งานต่างๆ กันเช่น
ในทางการแพทย์มีการใช้ในการตรวจวินิจฉัย
และบำบัดอาการโรคของผู้เจ็บป่วยจากโรคร้ายต่างๆ เช่น การฉายรังสีเอกซ์
การตรวจสมอง การตรวจกระดูก และการบำบัดโรคมะเร็ง เป็นต้น
นอกจากนี้ก็มีการใช้งานทางรังสีในกิจการอุตสาหกรรม การเกษตร
และการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ อาทิเช่น การใช้รังสีตรวจสอบรอยเชื่อม
รอยร้าวในชิ้นส่วนโลหะต่างๆ การใช้ป้ายเรืองแสงในที่มืด
การตรวจอายุวัตถุโบราณ การถนอมอาหารด้วยรังสี
และการฆ่าเชื้อโรคในเครื่องมือแพทย์
อันตรายจากรังสี
แม้
รังสีจะมีอยู่ล้อมรอบตัวเรา และมนุษย์ทุกคนก็สามารถใช้ประโยชน์จากรังสีได้
แต่รังสีก็นับได้ว่ามีความเป็นพิษภัยในตัวเองเช่นกัน
รังสีมีความสามารถก่อให้เกิดความเสียหายของเซลล์สิ่งมีชีวิต
และถ้าได้รับรังสีสูงมากอาจทำให้มีอาการป่วยทางรังสีได้
ดังนั้นผู้ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับรังสีจะต้องกระทำด้วยความรอบคอบ
เพื่อป้องกันตัวเองและสาธารณชนไม่ให้ได้รับอันตรายจากรังสีเลย
ผลของรังสีต่อสิ่งมีชีวิต
รังสี
ที่แผ่ออกจากธาตุ กัมมันตรังสีเมื่อผ่านเข้าไปในสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
จะทำให้เกิดการแตกตัวเป็นไอออนของอะตอมตามแนวทางที่รังสีผ่านไป
ทำให้เกิดผลเสียต่อสิ่งมีชีวิต 2 แบบ คือ
-
ผลของรังสีที่มีต่อร่างกาย คือ เกิดเป็นผื่นแดงขึ้นตามผิวหนัง ผมร่วง
เซลล์ตาย เป็นแผลเปื่อย เกิดเนื้อเส้นใยจำนวนมากที่ปอด (fibrosis of the
lung) เกิดโรคเม็ดโลหิตขาวมาก (leukemia) เกิดต้อกระจก (cataracts)
ขึ้นในนัยน์ตา เป็นต้น
ซึ่งร่างกายจะเป็นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณของรังสีที่ได้รับส่วนของ
ร่างกายที่ได้ และอายุของผู้ได้รับรังสี
ดังนั้นผู้ได้รับรังสีมีอายุน้อยแล้วอันตรายเนื่องจากรังสีจะมีมากกว่าผู้
ที่มีอายุมาก ในทารกแรกเกิดแล้วอาจได้รับอันตรายถึงพิการหรือเสียชีวิตได้
- ผลของรังสีที่เกี่ยวกับการสืบพันธุ์ คือ ทำให้โครโมโซม (chromosome) เกิดการเปลี่ยนแปลง มีผลทำให้ลูกหลานเกิดเปลี่ยนลักษณะได้
การป้องกันรังสี
รังสี
ทุกชนิดมีอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตทั้งนั้น
จึงต้องทำการป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับรังสี
หรือได้รับแต่เพียงปริมาณน้อยที่สุด
ในกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เนื่องจากต้องทำงานเกี่ยวข้องกับรังสีแล้ว
ควรมีหลักยึดถือเพื่อปฏิบัติดังนี้
- เวลาของการเผย (time of exposure) โดยใช้เวลาในการทำงานในบริเวณที่มีรังสีให้สั้นที่สุด เพราะปริมาณกำหนดของรังสีจะแปรตรงกับเวลาของการเผย
- ระยะทาง (distance)
การทำงานเกี่ยวกับรังสีควรอยู่ห่างจากแหล่งกำเนิดรังสีมาก ๆ
ทั้งนี้เพราะความเข้มของรังสีจะแปรผกผันกับกำลังสองของระยะทาง คือ เมื่อ d
คือระยะทาง
- เครื่องกำบัง (shielding) เครื่อ
งกำบังที่วางกั้นระหว่างคนกับแหล่งกำเนิดรังสีจะดูดกลืนบางส่วนของ
รังสีหรืออาจจะทั้งหมดเลยก็ได้
ดังนั้นในกรณีที่ต้องทำงานใกล้กับสารกัมมันตรังสีและต้องใช้เวลานานในการ
ปฏิบัติงาน
เราจำเป็นต้องใช้เครื่องกำบังช่วยเครื่องกำบังที่ดีควรเป็นพวกโลหะหนัก
เพราะว่าโลหะ หนักจะมีอิเล็กตรอนอยู่เป็นจำนวนมาก
ทำให้รังสีเมื่อวิ่งมาชนกับอิเล็กตรอนแล้วจะสูญเสียพลังงานไปหมด
ตัวอย่างของเครื่องกำบังเช่น แผ่นตะกั่ว แผ่นเหล็ก แผ่นคอนกรีต
ใช้เป็นเครื่องกำบังพวกรังสีเอกซ์และรังสีแกมมา แผ่นลูไซท์ควอทซ์
ใช้เป็นเครื่องกำบังรังสีเบตาได้ อากาศและแผ่นกระดาษ
อาจใช้เป็นเครื่องกำบังอนุภาคอัลฟา
ส่วนน้ำและพาราฟินใช้เป็นเครื่องกำบังอนุภาคนิวตรอนได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น