วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

ไทยติดโผอันดับ 4 รัฐประหารมากสุดของโลก

ไทยติดโผอันดับ 4 รัฐประหารมากสุดของโลก

          CSP เผยผลสำรวจ ซูดาน แชมป์รัฐประหารมากที่สุดในโลก 31 ครั้ง ไทยมาแรงไม่แพ้กันติดโผอันดับ 4 และมากที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน

          เมื่อ วันที่ 19 กันยายน 2555 องค์กร The Center for Systemic Peace (CSP) ได้ทำการรวบรวมข้อมูลการทำรัฐประหารในประเทศต่าง ๆ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1946 - 2010 (พ.ศ. 2489 - 2553) หรือในรอบ 64 ปีที่ผ่านมา โดยกำหนดให้นิยามของ การทำรัฐประหาร หมายถึง การใช้กำลังเข้ายึดอำนาจบริหารสูงสุดโดยกลุ่มการเมืองภายในประเทศ อันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของขั้วอำนาจ

          โดยข้อมูลจะนับรวมทั้งรัฐประหารที่ทำสำเร็จ, รัฐประหารที่ไม่สำเร็จ, รัฐประหารที่่เป็นเพียงแผนการยังไม่ได้ลงมือ และรัฐประหารที่ถูกกล่าวหาว่ากำลังวางแผน แต่จะไม่นับรวมการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง การลุกฮือของประชาชน สงครามกลางเมือง การลงจากอำนาจโดยสมัครใจ การส่งต่ออำนาจให้ทายาททางการเมือง การเสียชีวิตของผู้นำ การลอบสังหารผู้นำ และการถูกรุกรานจากกองกำลังต่างชาติ

จากการสำรวจพบว่า ประเทศที่มีการรัฐประหารมากที่สุดเรียงตามลำดับ มีดังนี้

1. ประเทศซูดาน มีการทำรัฐประหาร 31 ครั้ง
2. ประเทศอิรัก มีการทำรัฐประหาร 24 ครั้ง
3. ประเทศโบลิเวีย มีการทำรัฐประหาร 19 ครั้ง
4. ประเทศกินี-บิสเซา, ซีเรีย โตโก และไทย มีการทำรัฐประหาร 17 ครั้ง
5. ประเทศบุรุนดี และชาด มีการทำรัฐประหาร 16 ครั้ง
6. ประเทศอาร์เจนตินา, กานา, กินี มีการทำรัฐประหาร 15 ครั้ง

          นอก จากนี้ ประเทศไทยยังติดอันดับ 1 ใน 8 ประเทศ (กาน่า, ไทย, ชาด, กินี-บิสเซา, ซูดาน, โตโก, กินี และบุรุนดี) ที่ยังมีรัฐประหารเกิดขึ้นตั้งแต่หลังปี 2000 (พ.ศ. 2543) เป็นต้นมา อีกด้วยเช่นกัน
          ทั้งนี้ สำหรับสถิติการก่อรัฐประหารในประเทศอื่น ๆ มีดังนี้ เซียร่า-ลีโอน (14), ปานามา (13), กัมพูชา (12), ฟิลิปปินส์ (11), บังกลาเทศ (8), พม่า (6), ลาว (6), อินโดนีเซีย (5), ปากีสถาน (5), เนปาล (5), แคเมอรูน (4), เกาหลีใต้ (3), เกาหลีเหนือ (2), อินเดีย (1), ซาอุฯ (1) และศรีลังกา (1)

วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2555

ลุ้น! กสทช. เตรียมเปิดประมูล 3G 16 ต.ค. นี้


ลุ้น! กสทช. เตรียมเปิดประมูล 3G 16 ต.ค. นี้



          กสทช. เผย มีผู้สนใจยื่นประมูล 3G รวม 15 ราย เตรียมพิจารณาประกาศผลผู้มีสิทธิเข้าประมูล 9 ตุลาคมนี้ ก่อนเริ่มประมูล 16 ตุลาคม

          เมื่อวันที่ 20 กันยายน ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ด้านกฎหมาย กล่าวถึงความคืบหน้าการเปิดประมูลคลื่น 3G หรือคลื่นความถี่ย่าน 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ว่า ขณะนี้มีบริษัทที่สนใจมาขอรับเอกสารเพื่อเข้ายื่นประมูลคลื่น 3G แล้ว จำนวน 15 ราย ซึ่งทั้งหมดจะต้องยื่นเอกสารขอเข้าร่วมประมูลในวันที่ 28 กันยายนนี้ เพื่อให้ กสทช. ตรวจสอบแบบคำขอ ในวันที่ 28-30 กันยายน ก่อนจะพิจารณาแบบคำขอในวันที่ 1-8 ตุลาคม

          ดร.สุทธิพล กล่าวอีกว่า หลังจากพิจารณาแบบคำขอและพิจารณาคุณสมบัติของบริษัทที่ยื่นเข้าร่วมประมูลคลื่น 3G แล้ว ทาง กสทช. จะประกาศผู้ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ เพื่อมีสิทธิเข้าประมูลคลื่น 3G ในวันที่ 9 ตุลาคม จากนั้น บริษัทที่ผ่านการพิจารณาจะเข้าร่วมประมูลคลื่น 3G ในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ อย่างไรก็ตาม หากการประมูลไม่สามารถเสร็จสิ้นในวันที่ 16 ตุลาคม ก็อาจต้องดำเนินการต่อไปจนถึงวันที่ 18 ตุลาคม และจะประกาศผลผู้ที่สามารถประมูลได้ในวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2555

          ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บริษัทที่สนใจขอรับเอกสารเพื่อเข้ายื่นประมูลคลื่น 3G จำนวน 15 ราย ประกอบด้วย

 1. บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด

 2. บริษัท แอดวานซ์ โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด

 3. บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด

 4. บริษัท ดีแทค บรอดแบนด์ จำกัด

 5. บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)

 6. บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด

 7. บริษัท ทรูมูฟ จำกัด

 8. บริษัท เคเบิลไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)

 9. บริษัท เอซีที โมบาย จำกัด

 10. บริษัท เรียล มูฟ จำกัด

 11. บริษัท บีบี คอนเน็ค จำกัด

 12. บริษัท จาย่า ซ็อฟ วิชั่น จำกัด

 13. บริษัท วิคตอรี่ มอเตอร์ จำกัด

 14. บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)

 15. บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็ม จำกัด (มหาชน)

อึ้ง! จีนจับขอทานขังกรงเหมือนสัตว์ กันรบกวนคนในงานวัด



จีน จับ ขอทาน ขังกรง เหมือนสัตว์ กันรบกวนคนในงานวัด

จีน จับ ขอทาน ขังกรง เหมือนสัตว์ กันรบกวนคนในงานวัด

จีน จับ ขอทาน ขังกรง เหมือนสัตว์ กันรบกวนคนในงานวัด

จีน จับ ขอทาน ขังกรง เหมือนสัตว์ กันรบกวนคนในงานวัด

จีน จับ ขอทาน ขังกรง เหมือนสัตว์ กันรบกวนคนในงานวัด


          เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษรายงานว่า ผู้จัดงานวัดในเมืองหนานจาง มณฑลเจียงซีของจีน จับขอทานมาขังในกรงเหมือนกรงในสวนสัตว์ เพื่อให้บรรดาขอทานได้อยู่เป็นที่เป็นทาง ไม่เข้าไปรบกวนผู้คนภายในงานวัด

          โดยทางผู้จัดงานวัดดังกล่าว ได้สร้างกรงเหล็กเป็นทางยาวอยู่บริเวณหน้าวัด เพื่อขังขอทานโดยเฉพาะ ซึ่งขอทานแต่ละคนจะต้องนั่งอยู่ในกรงแล้ววางภาชนะใส่เหรียญไว้นอกกรง หรือก็คือการจัดสรรพื้นที่ไว้ให้พวกเขาโดยเฉพาะ โดยมีจุดประสงค์คือการป้องกันไม่ให้ขอทานที่มีจำนวนมาก เข้ามาเจ๊าะแจ๊ะ หรือสะกิดผู้คนที่เข้ามาเดินชม และสนุกสนานกับกิจกรรมต่าง ๆ ภายในงานวัด ซึ่งเห็นสภาพของกรงขังขอทานแล้ว ดูไม่ต่างจากกรงในสวนสัตว์จริง ๆ

          ทางด้านผู้จัดงานวัด เปิดเผยว่า "งานวัดประจำปีนี้ เราไม่อยากให้ขอทานมาเพ่นพ่านผู้คนที่มาในงานให้หมดสนุกจริง ๆ เพราะตลอดช่วงเวลา 2-3 ปีมานี้ มีขอทานเข้ามาขอเงินจากผู้คนในงานวัดเยอะมาก และค่อนข้างจะรบกวนคนที่มางานวัด ทำให้พวกเขารู้สึกลำบากใจและไม่สนุก เราจึงไม่มีทางเลือก และพบว่าการติดตั้งกรงจะเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด เพราะผู้คนก็ยังคงสามารถหยิบยื่นเงิน หรือสิ่งของกับพวกเขาได้ถ้าอยากจะให้ และที่สำคัญ คือขอทานทุกคนก็รู้สึกโอเคกับการนั่งอยู่ในกรงด้วย"

          นอกจากนี้ ผู้จัดงานวัดยังเปิดเผยอีกว่า ขอทานคนใดอยากจะออกจากกรง ก็สามารถออกได้เหมือนกัน แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องออกจากบริเวณงานวัดไปด้วย ห้ามมาเพ่นพ่านขอเงินผู้คนเด็ดขาด

          อย่างไรก็ดี ทางด้านองค์กรสิทธิมนุษยชน ได้ออกมาต่อต้านการกระทำดังกล่าว โดยได้แสดงความเห็นว่า "ทางผู้จัดงานวัดปฏิบัติกับขอทานเหมือนกับเป็นสัตว์ในสวนสัตว์ ทั้ง ๆ ที่ผู้คนเหล่านี้ต้องการความช่วยเหลือ และไม่ควรจะต้องมานั่งในกรงอย่างนี้เลย พวกเขาเป็นมนุษย์เหมือนกัน นี่เป็นการทำให้เมืองและประเทศขายหน้าชัด ๆ" ขณะที่ผู้คนที่มาเที่ยวงานวัดหลายราย ก็รู้สึกสลดใจที่ได้เห็นภาพดังกล่าวเช่นกัน

หาดทรายแก้ว Glass Beach มหัศจรรย์ จากกองขยะ

 

ไม่น่าเชื่อว่า หาดทรายแก้ว Glass Beach เมือง Fort Bragg ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา แห่งนี้ เคยเป็นศูนย์รวมแห่งขยะกองโต จนกระทั่งใน ปี ค.ศ. 1967 มีการทำความสะอาดครั้งใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าจะหมดสิ้น เพราะเศษเล็กเศษน้อยของแก้ว กระจกต่างๆ ยังคงฝังรากเป็นอณูแฝง แต่เมื่อเวลาผ่านไปนับหลายสิปปี ราวเกิดปาฏิหาริย์ เจ้าเศษแหลมคมอันเกลื่อนกลาด ถูกธรรมชาติเข้าแทรกแซง แต่ง ขัด ซัด เกลา จนไร้ความคม เป็นวัตถุกลมมนสร้างสีสันเป็น หาดทรายแก้ว Glass Beach


หาดทรายแก้ว Glass Beach


ปัจจุบัน หาดทรายแก้ว Glass Beach อยู่ในความดูแลของอุทยาน MacKerricher State Parkเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มแอบเก็บหินสีไป จนปริมาณหินน้อยลง ทางอุทยานฯจึงต้องยื่นมือมาควบคุมและอนุรักษ์ไว้

10 อันดับต้นไม้ ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก


ต้นไม้แห่งชีวิต ( Tree of Life)
อันดับที่ 1 ต้นไม้แห่งชีวิต ( Tree of Life)
ตั้งอยู่ห่างออกไป 2 กม.จากภูเขาแห่งหมอกควัน (Jebel Dukhan) ในซาอุดิอาระเบีย
แม้ว่าจะมีต้นไม่ที่อายุยืนอยู่มากมาย แต่ต้นไม้แห่งชีวิตต้นนี้กลับเป็นที่สนใจด้วยอายุกว่า
400 ปี ที่สามารถรอดทะเลทรายที่ไม่มีน้ำแม้แต่หยดเดียว ซึ่งถือเป็นความมหัศจรรย์ทาง
ธรรมชาติ

ต้นยูคาลิปตัสสีรุ้ง
อันดับที่ 2 ต้นยูคาลิปตัสสีรุ้ง
มีอีกชื่อหนึ่งว่า มินดาเนากัม เป็นต้นไม้ที่มีความสูงถึง 246 ฟุต (74.98 ม.) มีการกระจาย
พันธุ์ทางภูมิศาสตร์จากประเทศอินโดนีเซียไปที่ฟิลิปปินส์ มีความโดดเด่นด้วยริ้วสีเหลือง
เขียว ชมพู แดง และส้มที่กิ่งก้านและลำต้น นอกจากนี้ขณะที่มันเติบโตมันจะลอกออกเป็น
ชั้นบางๆ โดยเมื่อต้นเริ่มโตจะแตกเป็นริ้วสีเขียวไล่ไปเขียวเข้ม ก่อนจะกลายเป็นน้ำเงิน
สีม่วง ชมพูอมส้ม

ต้นไหมจุรี (งิ้วสีชมพู)
อันดับที่ 3 ต้นไหมจุรี (งิ้วสีชมพู)
เป็นต้นไม้ในตระกูล Malva มีถิ่นกำเนิดในป่าเขตร้อน ของทางอเมริกาใต้ เช่น บราซิล
ปารากวัย อาร์เจนติน่า บางต้นอาจสูงถึง 81 ฟุต (24.68 ม.) ทั้งลำต้นและกิ่งก้านจะเต็ม
ไปด้วยหนามแหลมขนาดใหญ่ เพื่อรักษาน้ำให้แก่ต้นในฤดูแล้ง ดอกสีแดง ชมพู และม่วง
นั้นมีขนาดประมาณ 4-6 นิ้ว ซึ่งภายในมีเมล็ดอยู่

Methuselah
อันดับที่ 4 Methuselah
เป็นต้นไม้พันธุ์สนชนิดหนึ่ง มีต้นกำเนิดในรัฐยูทาห์ เนเวอร์ดา และแคลิฟอร์เนีย เป็นต้น
ไม้ที่มีการเจริญเติบโตอย่างช้าๆ มันจะมีสีเขียวสดเป็นระยะเวลานานกว่า 40 ปี เป็นต้นไม้
ที่มีอายุยืนมาก ในปี 1957 ซึ่งเป็นปีที่มันถูกนำมาศึกษา มันมีอายุถึง 4,789 ปี

ต้นไม้จากวัดตาพรหม
อันดับที่ 5 ต้นไม้จากวัดตาพรหม
เป็นต้นไม้ในประเทศเขมร มีอยู่ 2 สายพันธุ์ ซึ่งมีความคิดเกี่ยวกับสายพันธุ์ทั้ง 2 แบ่งเป็น
กลุ่มแรกกล่าวว่าต้นที่ใหญ่กว่าเป็นต้นไหม ส่วนต้นที่เล็กกว่าป็นสายพันธุ์Tetrameles
nudiflora) ขณะที่อีกฝ่ายเห็นว่าต้นที่เล็กกว่าน่าจะเป็น Strangler Fig tree

ต้นเบาบับ
อันดับที่ 6 ต้นเบาบับ
เป็นต้นไม้ที่มี 8 สายพันธุ์ โดย สายพันธุ์แอฟริกามีต้นกำเนิดในแอฟริกา แต่ถูกก็พบมาก
ในเอเชีย และคาบสมุทรอาราเบีย ขณะที่อีก 6 สายพันธุ์มีต้นกำเนิดในมาดากัสก้าเรียกว่า
แกรนดิดิเออร์บับเบา , มาดากัสก้าบับเบา ฯลฯ และอีกสายพันธุ์พบในออสเตรเลีย
ทั้งนี้ ต้นบับเบาที่พบในอิฟาติ เกาะมาดากัสก้านั้นมีอายุถึง 1,200 ปี ตันบับเบานี้สามารถ
บรรจุน้ำได้มากถึง 120,000 ลิตร เพื่อให้สามารถอยู่ได้ในฤดูแห้งแล้ง

ต้นตุเล Tule Tree
อันดับที่ 7 ต้นตุเล Tule Tree
จากในภาพต้นตุเลต้นนี้มีความสูงถึง 116 ฟุต ตั้งอยู่ใน เมืองโออาซากา ประเทศเม็กซิโก

ต้นเลือดมังกร
อันดับที่ 8 ต้นเลือดมังกร
มีอีกชื่อหนึ่งในภาษาเยเมนว่า ต้นมังกรโซโคตร้า ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเกาะโซ
โคตร้า มันมีลักษณะคล้ายร่ม เป็นต้นไม้ที่มียางสีแดงไหลซึม ที่ถูกนำไปใช้ในการผลิต
เครื่องสำอาง และใช้วาดลายบนเครื่องปั้นดินเผา

Elia Bouybon
อันดับที่ 9 Elia Bouybon
เป็นต้นมะกอกที่อยู่ในหมู่บ้าน Ano Vouves บนเกาะกรีก ในประเทซกรีซ เชื่อหรือไม่ว่าต้น
มะกอกที่เก่าแก่อายุราว 3,500 ถึง 4,000 ปีต้นนี้ ยังสามารถผลิตผลมะกอกที่รสชาติเป็น
เลิศได้อยู่ ต้นมะกอกนี้มีความหนาถึง 15 ฟุต ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไปชมความงามของ
ต้นมะกอกเก่าแก่นี้กว่า 20,000 คน

Angel Oak
และอันดับที่ 10ได้แก่ Angel Oak
อยู่บนเกาะจอห์น ทางตอนใต้ของรัฐเซาท์แคโรไลน่าอายุกว่า 1,500 ปี แผ่กิ่งก้านสาขา
กว้างออกไปถึง 17,2000 ตารางฟุต ต้นโอ็คนี้ได้ชื่อว่าเป็นต้นไม้เก่าแก่ที่สุนในตะวันออก
ของแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ มีเส้นรอบวงกว้าง 28 ฟุต กิ่งของต้นมีความยาวกว่า 100ฟุต ต้น
โอ็คต้นนี้อยู่คู่กันมหันตภัยต่างๆของโลกมาแล้ว ทั้ง แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเมือง
ชาร์ลสตัน ปี 1886 น้ำท่วมและเฮอร์เคน ในปี 1989

วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

ใหญ่โคตร! หนุ่มเพาะกล้ามอียิปต์ทำลายสถิติโลก














เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก resumodanet.com 

         หนุ่มวัย 24 ปี ชาวอียิปต์ทำลายสถิติใหม่กินเนสส์บุ๊ก 2013 เป็นชายผู้มีมัดกล้ามเนื้อใหญ่ที่สุดในโลก วัดได้ 31 นิ้ว

         เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์เดอะซันของอังกฤษ รายงานว่า มุสตาฟา อิสมาอิล หนุ่มชาวอียิปต์วัย 24 ปี เป็นชายผู้มีมัดกล้ามเนื้อใหญ่ที่สุดในโลก วัดได้ 31 นิ้ว ซึ่ง เขามักจะได้รับฉายาจากเพื่อน ๆ ว่า บิ๊ก โม โดยกิจวัตรประจำวันที่เขาต้องทำ คือ การออกกำลังกายด้วยการยกน้ำหนัก 500 กิโลกรัม พร้อมทั้งเนื้อไก่อีก 3 ปอนด์ สเต็กเนื้อหรือปลาอีก 1 ปอนด์ ตามด้วยโปรตีนเชคอีก 3 ลิตร เพื่อเสริมสร้างโปรตีนให้ร่างกายทุกวัน

         จากกิจวัตรประจำวันดังกล่าว ทำให้รูปร่างเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงไป เขากลายเป็นผู้ที่มีมัดกล้ามเนื้อไบเซ็ปที่ใหญ่ที่สุดในโลก วัดได้ 31 นิ้ว หรือ เทียบเท่ากับเอวผู้ชายเลยทีเดียว ทำให้เขาคว้ารางวัลจากกินเนสส์บุ๊ก ฉบับปี 2013 มาครองได้สำเร็จ ผู้มาเจอมุสตาฟาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาเหมือนป็อปอาย ตัวการ์ตูนยอดนิยมนั่นเอง

         สำหรับ มุสตาฟา ย้ายจากบ้านเกิดในอียิปต์มาอยู่ที่รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา เป็นเวลา 5 ปีแล้ว โดยอาศัยอยู่กับภรรยาวัย 30 ปี เขาเริ่มหันมาสนใจเพาะกาย เนื่องจากก่อนหน้านี้ เขาเข้าโรงยิมเพื่อไปออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงตามปกติ แต่ต่อมา เขาได้รับคำชมมากมายเกี่ยวกับกล้ามเนื้อที่โตขึ้นอย่างรวดเร็วของเขา เขาจึงเริ่มสนใจเพาะกล้ามเนื้อเพิ่มขนาดไบเซ็ปด้วย จนมันใหญ่มากจนถึงทุกวันนี้

น้ำยมทะลักรอบ 2 ท่วมจวนผู้ว่าฯ สุโขทัย สูงกว่า 7 เมตร







เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม 
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก @wichernp


         บิ๊กแบ็ก-เกเบียน เอาไม่อยู่! น้ำยมทะลักท่วมตลาดเทศบาลเมืองสุโขทัยรอบ 2 ท่วม จวนผู้ว่าฯ สุโขทัย สูง 7 เมตร เผย ขณะนี้สุโขทัยอ่วม 5 อำเภอ ระดับน้ำสูงกว่าจุดวิกฤติทั้งหมด

         สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สุโขทัย ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (16 กันยายน) โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์กำลังจะเข้าสู่ภาวะวิกฤติอีกครั้ง หลังจากปริมาณน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นเกินจุดวิกฤติ โดยบริเวณหน้าจวนผู้ว่าฯ สุโขทัย วัดความสูงได้ 7.45 เมตร และยังคงเพิ่มระดับความสูงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีมวลน้ำป่าจาก อ.วังชิ้น จ.แพร่ ไหลเข้ามาสมทบ

         ทั้ง นี้ ในส่วนบริเวณที่วางบิ๊กแบ็กและเกเบียนเป็นแนวป้องกันน้ำยมไม่ให้ไหลเข้า ทะลักท่วมตัวเมืองสุโขทัยนั้น ตอนนี้พบว่ามีรอยรั่วซึมหลายแห่ง รวมถึงมวลน้ำยมได้ทะลักเข้ามายังท่อระบายน้ำแล้ว ส่งผลให้น้ำเพิ่มระดับสูงขึ้น และเข้าท่วมตลาดเทศบาลเมืองสุโขทัยเป็นครั้งที่ 2

         ขณะที่ ผู้ประกอบการร้านค้า และชาวบ้านในตลาด ที่เพิ่งจะทำความสะอาดที่อยู่อาศัยเสร็จ กลับต้องยกข้าวของขึ้นบนที่สูงอีกครั้งอย่างโกลาหล เนื่องจากไม่มั่นใจกับสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้

         ส่วนทางบริเวณหมู่ 4 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย น้ำยมได้เอ่อล้นเข้าท่วมหมู่บ้านสูงถึง 2 เมตร และยังไหลบ่าเข้าท่วมถนนจรดวิถีถ่อง สายสุโขทัย-ศรีสำโรง ตรงด้านหน้าการประปาส่วนภูมิภาค ทำให้ระดับน้ำสูง 50-90 เซนติเมตร เป็นระยะทางประมาณ 100 เมตร รถเล็กสัญจรผ่านไม่ได้

         อย่างไรก็ตาม ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์  สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะ ได้เดินทางมามอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน 1,000 ชุด จากนั้นได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนที่ประสบภัยน้ำท่วม โดย ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ กล่าวว่า เหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ มีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจำวน 19 ราย ส่วนมาเป็นกิจการโรงกลึง และอู่ซ่อมเครื่องยนต์ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างประเมินความเสียหาย
         ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำยม ตั้งแต่ตอนบนที่ อ.ศรีสัชนาลัย อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมือง และ อ.กงไกรลาศ สูงกว่าจุดวิกฤติทั้งหมด และเอ่อล้นขยายเป็นวงกว้าง เข้าท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนราษฎรอย่างไม่สามารถป้องกันได้

         อย่างไรก็ดี ทางด้านสถานการณ์น้ำท่วมที่ หมู่บ้าน ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย มีรายงานว่า ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 1,500 ครัวเรือน พืชสวนพังเสียหายกว่า 2,000 ไร่ แต่ขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว ทางหน่วยงานเกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือ และเตรียมฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยต่อไป

[13.10 น.,16 ก.ย.] บิ๊กแบ็กในตัวเมืองสุโขทัยพังแล้ว น้ำไหลทะลักเข้าตัวเมือง

         สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดสุโขทัยธานี ล่าสุดมีรายงาน บิ๊กแบ็กในตัวเมืองสุโขทัยพังแล้ว น้ำเริ่มไหลทะลักเข้าตัวเมือง ทางด้านผู้ว่าฯ สุโขทัย ประกาศให้ประชาชนอพยพออกนอกพื้นที่ และสั่งปิดโรงเรียน 


         ทั้งนี้ก่อนหน้านี้เมื่อคืนวันที่ 15 กันยายน เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ป้องกันจังหวัด ชลประทานจังหวัด ต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่กลางดึก หลังจากพบรอยรั่วที่บริเวณบิ๊กแบ็ก จุดล้อมกั้นโพรงน้ำที่ลอดพนังกั้นแม่น้ำยม และเป็นสาเหตุทำให้น้ำทะลักเข้าเขตเศรษฐกิจ อีกทั้งเครื่องสูบน้ำที่ประจำจุดนี้ ซึ่งใช้ไฟฟ้าต้องหยุดการทำงาน เนื่องจากน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่เกรงว่าจะเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ ต้องตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้เครื่องสูบน้ำจากชลประทาน ขนาด 12 นิ้ว จำนวน 2 เครื่องแทน


         อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ทวิตเตอร์ @wichernp รายงานว่า บิ๊กแบ็กในตัวเมืองสุโขทัยพังแล้วเมื่อเวลาประมาณ 12.43 น. วันนี้ (16 กันยายน) หลังจากมีน้ำไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยระดับน้ำท่วม จะถึงขอบกำแพงวัดราชธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย 

         ทางด้านผู้ว่าฯ สุโขทัย ประกาศให้ประชาชนอพยพออกนอกพื้นที่ และสั่งปิดโรงเรียนในเมืองแล้ว หลังได้รับการแจ้งว่ามีน้ำไหลเข้าท่วมเขตเทศบาลสุโขทัย เนื่องจากน้ำในแม่น้ำยมมีระดับสูงขึ้น






         ทางด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เรียกประชุมด่วนกับผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยเพื่อเตรียมรับมือน้ำท่วม จังหวัดสุโขทัยโดยด่วน      
   

ปชช.สวรรคโลก เร่งย้ายของหนีมวลน้ำใหญ่

           นายกเทศบาลสวรรคโลก ออกเตือนประชาชน เร่งขนย้ายสิ่งของ หลัง มวลน้ำขนาดใหญ่ไหล ลงแม่น้ำยม เกือบวิกฤติ

           นายสมชาติ ลิมปะพันธุ์ นายกเทศบาลเมืองสวรรคโลก อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ได้ประกาศเตือนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำยม เขตเทศบาลเมืองสวรรคโลก ทั้ง 2 ฝั่ง ให้เก็บของขึ้นที่สูง เนื่องจาก มวลน้ำจำนวนมากที่ไหลมาจากบ้านแม่เทิน ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย ไหลลงแม่น้ำยม จึงทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนวิกฤติ  ระดับน้ำหน้าสถานีดับเพลิงสวรรคโลก อยู่ที่ 10.42 เมตร ซึ่งสูงกว่าระดับแม่น้ำยมที่รับได้อยู่ที่ 10 เมตร ทางเทศบาลเมืองสวรรคโลก จึงได้นำกระสอบทราย วางเป็นแนวเขื่อนสูง 1 เมตร ตลอดแม่น้ำยม ทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะลักเข้าไหลท่วมพื้นที่เศรษฐกิจของ อ.สวรรคโลก  แต่กระแสน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ ที่ ต.ย่านยาว  ต.คลองกระจง ต.เมืองบางยม และ ต.ท่าทอง

           ส่วนพื้นที่ ที่ถูกน้ำท่วมหนักสุด อยู่ที่ หมู่ 1 และหมู่ 8 ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก เนื่องจาก พื้นที่ดังกล่าเป็นพื้นที่ต่ำและรองรับน้ำ กระแสน้ำ ซึ่งมีปริมาณสูงกว่าตลิ่งแม่น้ำยมเกือบ 1 เมตร ได้กัดแซะแนวเขื่อนดินริมแม่น้ำพังเป็นแนวยาว และน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำยมสูง กว่า 2 เมตร จึงทำให้ประชาชนจำนวนมาก ต้องขนข้าวของและสัตว์เลี้ยง ขึ้นมาทำเพิงพักอาศัยอยู่ริมถนนสาย สวรรคโลก-สุโขทัย เป็นจำนวนมาก สะพานข้ามแม่น้ำยมบ้านไทรย้อย และถนนริมแม่น้ำยมตลอดสาย ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เนื่องจาก ถูกน้ำท่วมสูง ส่วนถนนสายหลัก ยังสัญจรไปมาได้ตามปกติเนื่องจากสูงกว่าถนนริมแม่น้ำ